|
โครงการประกันกลุ่มแบบสะสมทรัพย์
จัดตั้งได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ผู้บริหาร/เจ้าของกิจการ พร้อมที่จะช่วยพนักงานเก็บออมเงินด้วยการหักบัญชีเงินเดือนแล้วโครงการนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้
ลักษณะของโครงการโดยสังเขปมีดังนี้คือ |
|
1.
ผู้บริหาร/เจ้าของกิจการ เห็นสมควรให้มีการจัดตั้งโครงการประกันภัยกลุ่มแบบสะสมทรัพย์
ตามแผนการประกันภัยกลุ่มที่ นำเสนอ |
|
2.
สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมโครงการซึ่งเป็นแบบสมัครใจ (Voluntary) |
|
3.
โครงการจะก่อตั้งได้จะต้องมีพนักงานเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 10 คน (ยกเว้นแบบสะสมทรัพย์ที่มีอนุสัญญาเพิ่มเติม) |
|
4.
พนักงานเลือกจำนวนเงินเบี้ยประกันรายเดือน หรือรายปี ที่จะต้องชำระตามแผนสะสมทรัพย์ที่กำหนดไว้และอนุญาตให้หักเงินจำนวนนี้จากบัญชีเงินเดือนของตนเอง |
|
5.
ผู้บริหาร/เจ้าของกิจการ นำจำนวนเงินเบี้ยประกัน ที่หักจากบัญชีเงินเดือนของพนักงาน
ที่เข้าร่วมโครงการส่งให้ เอ.ไอ.เอ ตามรายละเอียดที่ทาง เอ.ไอ.เอ จะจัดส่งให้เป็นรายเดือน |
|
6.
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการออมทรัพย์ อันจะเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้บริหาร/เจ้าของกิจการ
จึงเปิดโอกาสให้บริษัท/องค์กร ออกเงินสมทบเพิ่มจากจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยของพนักงานด้วยก็ได้ |
|
7.
ผู้บริหาร/เจ้าของกิจการ สามารถกำหนดอัตราผลประโยชน์ที่จะจ่ายให้แก่พนักงานที่เข้าร่วมโครงการในส่วนของเงินสมทบที่บริษัท/องค์กรเป็นผู้ออกให้
เพื่อจูงใจให้พนักงานอยู่ทำงานกับบริษัท/องค์กรนานยิ่งขึ้น |
|
พนักงานผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการสะสมทรัพย์ครบอายุ
60 ปี จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ |
|
1.
จะต้องเป็นพนักงานประจำที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา มีอายุตั้งแต่ 16 ถึง 55
ปี |
|
2.
จะเข้าร่วมโครงการได้ในวันที่การประกันภัยมีผลบังคับ หรือวันครบรอบปีกรมธรรม์ถัดไป |
|
3.
กรอกใบสมัครเรียบร้อยและได้รับการอนุมัติจาก เอ.ไอ.เอ |
|
4.
เลือกจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยรายเดือนหรือรายปี ตามแผนใดแผนหนึ่งที่กำหนดไว้ |
|
5.
สามารถเปลี่ยนจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยได้ในวันครบรอบปีกรมธรรม์ถัดไป |
|
6.
แสดงความยินยอมให้ผู้บริหาร/เจ้าของกิจการ หักเบี้ยประกันภัยจากบัญชีเงินเดือน |
|
ผู้บริหาร/เจ้าของกิจการที่ได้จัดให้เกิดมีโครงการประกันภัยกลุ่มแบบสะสมทรัพย์จะได้รับประโยชน์ดังนี้
คือ |
|
1.
สามารถจัดสวัสดิการเกษียนอายุให้แก่พนักงานโดยไม่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายใด
ๆ |
|
2.
แบ่งเบาภาระทางการเงินของบริษัท/องค์กร ในอันที่จะต้องจัดเตรียมเงินกองทุนเกษียณอายุ
หรือเงินสงเคราะห์กรณีมรณกรรม |
|
3.
สนับสนุนให้พนักงานเก็บออมเงินเป็นประจำสม่ำเสมอ ตามกำลังความสามารถของแต่ละบุคคล |
|
4.
สร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับพนักงาน ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับบริษัท/องค์กร |
|
5.
สร้างความอบอุ่นใจให้กับครอบครัวของพนักงาน ด้วยการประกันชีวิตที่ควบคู่ไปกับการออมทรัพย์ |
|
6.
ส่งเสริมให้เกิดขวัญกำลังใจในอันที่จะทำงานกับบริษัท/องค์กร |
|
7.
สร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างผู้บริหาร/เจ้าของกิจการกับพนักงาน |
|
8.
สามารถสร้างหลักประกันความมั่นคงในอนาคตให้แก่ตนเองและครอบครัว |
|
9.
ก่อให้เกิดการออมทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ |
|
10.
ทำได้สะดวก โดยการหักจากบัญชีเงินเดือน |
|
11.
ได้ประโยชน์ 2 ประสงค์ ทั้งการสะสมทรัพย์ และความคุ้มครองในขณะเดียวกัน |
|